ตัวเก็บประจุ,คาปาซิเตอร์
(Capacitor)
ตัวเก็บประจุ
, คาปาซิเตอร์ (Capacitor) หรือ ตัว C ที่เรานิยมเรียกกัน ตัวเก็บประจุจะทําหน้าที่เก็บประจุไฟฟ้าและคายประจุไฟฟ้า
โดยจะว่าไปแล้วตัวเก็บประจุทําหน้าที่
คล้ายกับแบตเตอรี่
แต่จะเก็บกระแสไฟฟ้า ได้น้อยกว่าและจะจ่ายกระแสไฟฟ้าไฟฟ้าได้เร็ว กว่าโดยตามโครงสร้างแล้วตัวเก็บประจุจะประกอบด้วยแผ่นตัวนําวางประกบกันโดย
เว้นระยะห่างของแผ่นตัวนําโดยภายในจะมีสารไดอิเล็กตริกอยู่
เราจึงนิยมมักเห็นตัวเก็บประจุอยู่ในวงจรอิเล็กทรอนิกส์เสมอ นอกจากเราจะใช้ตัวเก็บประจุ
เก็บและคายประจุให้วงจรอิเล็กทรอนิกส์แล้วเรายังใช้ตัวเก็บประจุ ในวงจรกรองความถี่ได้อีกด้วย
หน่วยของตัวเก็บประจุเรียก ว่า F (ฟารัส) 10uF(10ไมโครฟารัส) 0.01uF
(0.01ไมโครฟารัส) เป็นต้น ซึ่งการอ่านค่าและ การแปลงหน่วยจะกล่าวถึงในส่วนต่อไป
ชนิดของตัวเก็บประจุ
ตัวเก็บประจุเองนั้นสามารถแบ่งออกได้หลายชนิดเช่น แบ่งตามการใช้งานตามขั้วไฟฟ้าจะมีตัวเก็บประจุแบบมีขั้ว
( คือต้องต่อให้ถูกขั้วจึงจะทํางาน) และตัวเก็บประจุไม่มีขั้ว(จะต่อแบบใดก็ได้)หรือจะแบ่งตามชนิดโครงสร้างก็สามารถแบ่งออกได้หลายแบบ
เช่น ตัวเก็บประจุอิเล็กทรอไลท์ ตัวเก็บประจุเซรามิค ตัวเก็บประจุแทนทาลั่ม
ตัวเก็บประจุโพลีเอสเตอร์ เป็นต้นหรือแบ่งตามการเปลี่ยนแปลงค่า สามารถแบ่งเป็นตัวเก็บประจุแบบค่าคงที่
ตัวเก็บประจุเปลี่ยนค่าได้(พบมากในเครื่องรับวิทยุ) และตัวเก็บประจุที่เลือกค่าได้(มีหลายตัวอยู่ในตัวเดียวกัน
นอกจากนี้ยังมีอีกมากมายแต่ในที่นี้จะขอยกตัวอย่างรูปร่างและการใช้งานพื้นฐาน
ของตัวเก็บประจุที่เรามักจะพบเห็นเสมอในวงจรอิเล็กทรอนิกส์
ตัวเก็บประจุอิเล็กทรอไลท์
ตัวเก็บประจุชนิดนี้จะมีค่าความจุอยู่ในช่วง1
uF -30,000 uFขึ้นไป และมีการใช้งานที่ แรงดัน ตามที่ระอยู่บนตัวมันอยู่แล้วเช่น
10V , 16V , 25V ,50V 100V เรานิยมใช้ตัวเก็บประจุชนิดนี้ในวงจรทั่วไป
ตัวเก็บประจุ ชนิดนี้มีใช้ทั้งแบบมีขั้ว และไม่มีขั้วค่าความจุ และแรงดันใช้งาน
จะพิมพ์ตัวเก็บประจุเลย และจะมีแถบสีขาวด้านข้างซึ่งจะแสดง ตําแหน่งขาลบ(-)
ของตัวเก็บประจุ
ตัวเก็บประจุเซรามิค
ตัวเก็บประจุชนิดนี้จะมีขนาดเล็ก
ไม่มีขั้ว ค่าความจุต่ำ อยู่ในช่วง พิโก - นาโน (pF - nF ) การระบุค่าของตัว
เก็บประจุจะเขียนเป็น code (ศึกษาการอ่านค่าในส่วนล่าง) และไม่ค่อยระบุการใช้
แรงดัน แต่ปกติจะ ใช้แรงดันที่ 50V 100V 1000V ขึ้นอยู่กับขนาดของมันหรือสอบถามจาก
พนักงานขายได้ ปกติแล้ว ตัวเก็บประจุชนิดนี้จะใช้ในงานกรองความถี่พบมากในพวกเครื่องรับ-ส่ง
และวงจรทั่วไป
ตัวเก็บประจุโพลีเอสเตอร์
(ไมล่า)
ตัวเก็บประจุชนิดนี้จะมีขนาดใหญ่ชึ้นมา
เป็นตัวเก็บประจุแบบไม่มีขั้ว ค่าความจุจะสูงกว่าแบบ เซรามิคขึ้นมา
อาจจะอยู่ในช่วง นาโน -10 ไมโคร(nF - 10uF ) และการใช้งานจะอยู่ที่
50V , 100V หรือมากกว่า การอ่านค่าจะเขียนอยู่ในรูปแแบบcode การใช้งานจะคล้ายกับตัวเก็บประจุแบบเซรามิค
ตัวเก็บประจุโพลี
ตัวเก็บประจุชนิดนี้อาจแบ่งได้หลายแบบเช่น
โพลีเอสเตอร์ โพลีคาร์บอนเนต โพลีโพไฟลีน ซึ่งรายละเอียดจะหามาลงในบทความต่อไป
ค่าความจุจะอยู่ในช่วงนาโน
- ไมโคร เช่นเดียวกับ ตัวเก็บประจุไมล่าการใช้งานแรงดัน อยู่ในช่วง
50V - 100 V หรือมากกว่าซึ่ง จะเขียนติดไว้ที่ตัวเก็บประจุอยู่แล้วและค่าตัวเก็บประจุ
จะพิมพ์อยู่บนตัวเก็บประจุเลย โดยอาจจะเป็นค่า pF หรือ uF ขึ้นอยู่กับค่าความจุในการใช้งานส่วนมากจะใช้งานในระบบเสียง
เสียงเครื่องเสียง ระบบความคุม เป็นต้น
ตัวเก็บประจุแทนทาลั่ม
ตัวเก็บประจุชนิดนี้จะมีทั้งแบบมีขั้ว
และไม่มีขั้วมีขนาดเล็ก ความจะอยู่ในช่วง 1-100uF ราคาสูงใช้แทนตัวเก็บประจุอิเล็กทรอไลท์
การอ่านค่าตัวเก็บประจุ
และการแปลงค่าของตัวเก็บประจุดังที่กว่าไปแล้วว่าหน่วยของตัวเก็บประจุคือ
F (ฟารัส) แต่ตัวเก็บประจุที่ใช้ในวงจรอิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่
จะมีค่าต่ำๆเป็น u(ไมโคร) n(นาโน) p(พิโก) ซึ่งหน่วยดังกล่าวสามารถแปลงกลับไปกลับมาได้
เช่น หากไปซื้อตัวเก็บประจุแล้วทาง ร้านบอกค่ามาเป็น n(นาโน) เราก็สามารถแปลงเป็น
p(พิโก) ได้ หรือ การอ่านค่าตัวเก็บประจุบางชนิดซึ่งอาจจะอ่านเป็นค่า
n(นาโน) เราก็สามารถแปลงมาเป็น p(พิโก) หรือ u(ไมโคร) ได้การเทียบหน่วยของตัวเก็บประจุ
1 ฟารัส (1F) = 1,000,000 ไมโครฟารัส (1,000,000uF)
1 ไมโครฟารัส(1uF) = 1,000 นาโนฟารัส(1,000nF)
1 นาโนฟารัส (1nF) = 1,000 พิโกฟารัส(1,000pF)
การอ่านค่าตัวเก็บประจุแบบต่างๆ โดยทั่วไปแล้วตัวเก็บประจุชนิด เซรามิก
หรือ ไมล่า จะเขียนโคด(code) รหัสแสดงการบอกค่าความจุของตัวเก็บประจุ
โดยจะแสดงในรูปของจํานวนตัวเลข 3 ตัว เช่น 103 ในการแปลงค่า2หลักแรก(10)
จะเป็นค่าคงที่ ส่วนหลักที่ 3(3) จะแทนจํานวนเลข ศูนย์(0)
เท่ากับจํานวนนั้น
และหน่วยที่ทําการ อ่านจากรหัสเหล่านี้จะเป็น พิโก (p) เสมอ เช่น
103 จะเขียนเป็น 10,000pF
221 จะเขียนเป็น 220pF
253 จะเขียนเป็น 25,000pF เป็นต้น
จากนั้นเราก็จะเแปลงเป็นหน่วยอื่นได้ตามที่ต้องการแต่จะมีวีแปลงจากรหัสเหล่านี้ไปอยู่ในรูปของ
ไมโคร (uF) ได้โดยเราจะมองที่หลักสุดท้ายคือ
ลงท้ายด้วย 1 จะเป็น 0.000 เช่น 231 จะเป็น 0.00023uF (230pF)
ลงท้ายด้วย 2 จะเป็น 0.00 เช่น 232 จะเป็น 0.0023uF (2300pF)
ลงท้ายด้วย 3 จะเป็น 0.0 เช่น 233 จะเป็น 0.023uF (23000pF)
ลงท้ายด้วย 4 จะเป็น 0. เช่น 234 จะเป็น 0.23uF(230000pF)
** แต่ในตัวเก็บประจุเซรามิคอาจจะเป็นตัวเลขตัวเดียว เช่น 1 2 แสดงถึงค่า
1pF 2PF ได้เลย
|